ตามที่ กรมสรรพากร ได้มีหนังสือที่ กค 0702/4583 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 ตอบไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ เรื่อง ภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีการประกอบกิจการของสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยสรุปได้ว่า “มาตรา 91/3 แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดให้ยกเว้นสำหรับกิจการสหกรณ์เฉพาะการให้กู้ยืมแก่สมาชิกหรือสหกรณ์ออมทรัพย์อื่นเท่านั้น ดังนั้น สหกรณ์จึงมีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะฯ ทั้งนี้ การขอให้กรมสรรพากรสนับสนุนและผลักดันให้สหกรณ์ออมทรัพย์ได้รับยกเว้นการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ ในกรณีอื่นๆ นั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของกรมสรรพากร”และกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มีหนังสือที่ กษ 1115/6184 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2558 เรื่อง การเสียภาษีธุรกิจเฉพาะของสหกรณ์ โดยสรุปว่า “ให้สหกรณ์จังหวัดกำชับให้สหกรณ์ที่อยู่ในความรับผิดชอบทุกแห่งดำเนินการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะดังกล่าวให้ถูกต้อง เพื่อมิให้ถูกลงโทษย้อนหลังต่อไป”
ชสอ. ขอเรียนให้ทราบว่า ชสอ. ได้ดำเนินการผลักดันการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ปี2557 โดยมีการเข้าพบหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้ทราบเหตุว่า การที่สหกรณ์ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะเกี่ยวกับการให้กู้ยืมแก่สมาชิกหรือสหกรณ์ออมทรัพย์อื่นนั้น เป็นบทบัญญัติที่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511 ที่มีการกำหนดอำนาจกระทำการและการลงทุนของสหกรณ์ไว้ในวงจำกัด ต่อมาได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 โดยเพิ่มเติมอำนาจกระทำการและการลงทุนของสหกรณ์ให้มากขึ้น แต่กฎหมายที่เกี่ยวกับการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะมิได้แก้ไขเพิ่มเติมไปตามกัน
ขณะนี้ ชสอ. อยู่ระหว่างดำเนินการผลักดันแก้ไขให้มีการยกเว้นการจัดเก็บภาษีธุรกิจ
เฉพาะกับสหกรณ์ หากมีความคืบหน้าประการใดจะแจ้งให้สหกรณ์สมาชิกได้รับทราบต่อไป
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ ฝ่ายส่งเสริมกิจการสหกรณ์ เบอร์โทรศัพท์ 0 2496 1199 ต่อ 317